สธ. เปิดกิจกรรม “Brush & Bright ” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ชูการแปรงฟันคุณภาพ ด้วยสูตร 2-2-2


สธ. เปิดตัวกิจกรรม “Brush & Bright รอยยิ้มสดใส คนไทยฟันดีทั่วทั้งแผ่นดิน” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ชูการแปรงฟันคุณภาพ ด้วยสูตร 2-2-2 ได้แก่ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และไม่รับประทานอาหารหลังการแปรงฟันนาน 2 ชั่วโมง

กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จัดงานรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” พร้อมเปิดตัวกิจกรรม “Brush & Bright รอยยิ้มสดใส คนไทยฟันดี ทั่วทั้งแผ่นดิน” เพื่อรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสําคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง

วันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังเป็น ประธานเปิดโครงการรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ พ.ศ. 2567 ณ ลานอเนกประสงค์ อาคาร B ชั้น 2 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อรําลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย และเปิดตัวกิจกรรม “Brush & Bright รอยยิ้ม สดใส คนไทยฟันดีทั่วทั้งแผ่นดิน”

เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยเห็นความสําคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งในปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ยูนิเซฟ องค์กรวิชาชีพด้านสุขภาพ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สํานักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง ภาคเอกชน และ หน่วยงานภาคประชาสังคมต่าง ๆ แสดงเจตจํานงค์ขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ตามบทบาทภารกิจของหน่วยงานตนเอง

“จากข้อมูลการสํารวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ. 2566 ของประเทศไทย พบว่า คนไทย ในกลุ่มผู้สูงอายุ (60-74 ปี) มีฟันผุ และยังไม่ได้รับการรักษา มากที่สุดถึง ร้อยละ 60 รองลงมา คือ วัยทํางาน (35-44 ปี) ร้อยละ 52.9 และในเด็กอายุ 12 ปี ร้อยละ 49.7 และพบความชุกของโรคปริทันต์อักเสบในวัยทํางาน (35-44 ปี) มากที่สุด ร้อยละ 32.6 และผู้สูงอายุ (60-74 ปี) ร้อยละ 31.1” นายเดชอิศม์ กล่าว

ทั้งนี้ การป้องกันโรคในช่องปากที่ดีที่สุด คือ Brush & Bright โดย Brush หมายถึง การแปรงฟันคุณภาพ ด้วยสูตร 2-2-2 ได้แก่ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และไม่รับประทานอาหารหลังการแปรงฟันนาน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ ช่องปากสะอาดนานที่สุด

สําหรับ Bright หมายถึง การตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตบุคลากรปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ทราบ สภาวะช่องปากตนเอง หากเกิดปัญหาในช่องปากจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ลดความเจ็บปวดในช่องปาก และลดการ รักษาที่ยุ่งยากซับซ้อน นอกจากนี้ ควรขัดทําความสะอาดฟัน หรือขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกําจัดคราบหินปูนที่ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อจุลินทรีย์บริเวณขอบเหงือก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคปริทันต์หากประชาชนให้ความสําคัญกับการ ดูแลสุขภาพช่องปากตนเองอย่างสม่ําเสมอตามคําแนะนํา จะทําให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อไป

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดูแลสุขภาพช่องปาก นอกจากจะลด ความเจ็บปวดจากโรคในช่องปากแล้ว ยังส่งผลต่อการมีสุขภาพกายและคุณภาพชีวิตที่ดี เนื่องจากโรคทางกายหลายโรค มีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะโรคปริทันต์อักเสบร่วมด้วยมักมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมระดับน้ําตาลในเลือดทําได้ยากขึ้น หรือการดูแลอนามัยช่องปากไม่ดีจะเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อ ที่ปอด หรือการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ การเกิดโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือรอยโรค ในช่องปาก และไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ทันเวลา ส่งผลกระทบต่อการดําเนินชีวิตประจําวัน โดยเฉพาะการกินอาหาร การกลืน การพูด บุคลิกภาพ ความมั่นใจ

ในปี 2567 กรมอนามัยได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขจัดการรณรงค์ทางทันตสาธารณสุขภายใต้ชื่อโครงการ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ ไทย” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ

รวมทั้งเป็นการเปิดตัวกิจกรรม “Brush & Bright รอยยิ้มสดใส คนไทยฟันดี ทั่วทั้งแผ่นดิน” เพื่อเป็นการสร้างกระแสและกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสภาพช่องปากตนเอง ประกอบด้วยการแปรงฟันคุณภาพด้วยสูตร 222 การตรวจสุขภาพช่องปากฟรี 1-2 ครั้ง และการรับบริการทำความสะอาดฟันในหน่วยบริการสาธารณสุข การรณรงค์ในครั้งนี้ประกอบด้วยการจัดบริการทันตกรรมทั่วประเทศโดยไม่คิดมูลค่าการสื่อสาร มูลที่ประโยชน์ทางทันตกรรมทางด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก และสิทธิทางทันตกรรมทางช่องทางออนไลน์ การจัดการรณรงค์ในวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 

ด้าน ทพ.ดํารง ธํารงเลาหะพันธุ์ ผู้อํานวยการสํานักทันตสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า สําหรับวันทันต สาธารณสุขแห่งชาติ 21 ตุลาคมปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ได้จัดให้มีบริการทันตกรรมแก่ประชาชน โดยไม่คิดค่าบริการในโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเฉกเช่นทุกปี ซึ่งทางกรมอนามัยได้จัดให้มีบริการตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ ให้คําปรึกษาและ คําแนะนําการดูแลสุขภาพช่องปากจากทันตแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่คลินิกส่งเสริมสุขภาพช่องปากและทันตกรรมป้องกัน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีผู้รับบริการจํานวน 100 คน

 



Source link