เจ้าหน้าที่สุสานอาร์ลิงตันและทีมงานหาเสียงของทรัมป์ประสบ “เหตุการณ์”


เจ้าหน้าที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตันและทีมงานหาเสียงของทรัมป์ประสบ “เหตุการณ์” หนึ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเกี่ยวกับการใช้ช่างภาพในบริเวณหนึ่งที่ฝังศพทหารที่เสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้

โฆษกของสุสานทหารกล่าวในแถลงการณ์ว่า “กฎหมายของรัฐบาลกลางห้ามไม่ให้มีการรณรงค์หาเสียงทางการเมืองหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งภายในสุสานทหารแห่งชาติของกองทัพบก ซึ่งรวมถึงช่างภาพ ผู้สร้างเนื้อหา หรือบุคคลอื่นใดที่เข้าร่วมเพื่อวัตถุประสงค์ หรือสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครทางการเมืองที่สังกัดพรรคการเมืองโดยตรง สุสานทหารแห่งชาติอาร์ลิงตันได้เสริมสร้างและเผยแพร่กฎหมายนี้และข้อห้ามต่างๆ อย่างกว้างขวางกับผู้เข้าร่วมทุกคน เราสามารถยืนยันได้ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และได้มีการยื่นรายงานแล้ว”

ทรัมป์ได้ไปเยี่ยมสุสานในวันจันทร์เพื่อเข้าร่วมพิธีวางพวงหรีดและเยี่ยมชมหลุมศพของจ่าสิบเอกดาริน เทย์เลอร์ ฮูเวอร์ เพื่อร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในการโจมตีในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 ขณะที่สหรัฐฯ กำลังถอนกำลังออกจากภูมิภาคนี้ ในแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ได้โจมตีรัฐบาลของไบเดนเกี่ยวกับการออกจากอัฟกานิสถานอย่างวุ่นวาย

สตีเวน เฉิง โฆษกฝ่ายหาเสียงของทรัมป์กล่าวว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ช่างภาพมาร่วมงานได้ นอกจากนี้ ฝ่ายหาเสียงยังได้โพสต์แถลงการณ์จากสมาชิกในครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต โดยระบุว่าพวกเขา “อนุมัติให้ช่างภาพและช่างวิดีโอประจำตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์เข้าร่วมงาน โดยรับรองว่าช่วงเวลาแห่งการรำลึกอันศักดิ์สิทธิ์นี้จะถูกบันทึกไว้ด้วยความเคารพ และเพื่อที่เราจะได้เก็บรักษาความทรงจำเหล่านี้ไว้ตลอดไป”

NPR รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดย Cheung กล่าวในแถลงการณ์ต่อสำนักข่าวดังกล่าวว่า “ข้อเท็จจริงคือช่างภาพส่วนตัวได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสถานที่ดังกล่าว และด้วยเหตุผลบางประการ บุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งมีอาการป่วยทางจิตอย่างชัดเจน ตัดสินใจกีดกันสมาชิกในทีมของประธานาธิบดีทรัมป์ทางกายภาพระหว่างพิธีอันเคร่งขรึม”

เขายังบอกกับทางร้านว่าพวกเขาพร้อมที่จะเปิดเผยภาพที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้ทำ

NPR อ้างแหล่งข่าวที่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่สุสานพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่รณรงค์เข้ามาแทนที่ในพื้นที่ และมีเพียงเจ้าหน้าที่สุสานเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น แหล่งข่าวบอกกับ NPR ว่าเกิดการทะเลาะวิวาททั้งทางวาจาและร่างกายขึ้น แต่ Cheung ปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดการทะเลาะวิวาททางร่างกาย





Source link