เดนทิสเต้ เจาะ Gen Z ใช้โมเดล Subscription ส่งยาสีฟันถึงบ้านรายไตรมาส


ตลาดยาสีฟันพรีเมียม เป็นหนึ่งในตลาดที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดปี 2567 ที่ผ่านมามูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท และเติบโต 6% ไม่ง่ายเลยสำหรับแบรนด์ไทยอย่าง เดนทิสเต้ ที่เลือกเดินเกมแตกต่างตั้งแต่แรกเริ่ม จากการเป็นแบรนด์ที่เคยเผชิญความท้าทายทางธุรกิจหลายปี วันนี้กลับค่อยๆ สร้างพื้นที่ของตัวเองขึ้นมาได้ ผ่านการทำตลาดในกว่า 27 ประเทศทั่วโลก

[ เดนทิสเต้บุกตลาดต่างประเทศ เกาหลีขายดี แม้ราคาสูง ]

‘เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เล่าให้ฟังว่า  5 ความต้องการของผู้บริโภคไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 1. ปัญหากลิ่นปากที่บ่งบอกถึงสุขภาพ 2. โรคเหงือกที่พบบ่อยวัย 40 ปีขึ้นไป 3. ความต้องการมีฟันขาวของคนทุกเจน รับการกินดื่มยุคใหม่ที่ทำร้ายฟัน 4. อาการเสียวฟันที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน และ 5. ปัญหาฟันผุที่คนไทยเผชิญสูงถึง 96%

ในช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำแบรนด์ยาสีฟัน มาในชื่อ Plus White แล้วก็ก็พบว่ายอดขายติดลบ 4 ปีซ้อน หลังจากนั้นก็รีแบรนด์ ใช้ทีมที่ปรึกษาระดับโลก (ดึงทีมที่เคยปั้น Starbucks มา) เพื่อวางโพสิชั่นนิ่งแบรนด์ให้แตกต่าง สร้างนิชมาเก็ตชัดเจน และ “ให้สัญญากับโลก” ว่าจะสร้าง โมเมนต์ดีๆ ในทุกวัน ให้ผู้คน ผ่านการดูแลสุขภาพช่องปาก

ตอนนี้แบรนด์ทำตลาดใน 27 ประเทศ และมียอดขายจากต่างประเทศสูงกว่าในไทยเสียอีก เช่นเกาหลีใต้ จนมียอดขาย 12% ของตลาด ทั้งที่เดนทิสเต้เป็นยาสีฟันที่แพงที่สุดในเกาหลี และ ลิซ่า BLACKPINK ก็ใช้ก่อนจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วยซ้ำ 

อีกทั้งยัง บุกเอเชียตะวันออกกลางสำเร็จ เตรียมขยายไปยุโรปและลาตินอเมริกา หลังผลวิจัยพบ 99% ของผู้บริโภคชื่นชอบเดนทิสเต้ พร้อมทั้งเจาะตลาดอเมริกาแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งของเข้าไปทีละรัฐทีละกลุ่มเป้าหมาย

[ ลองทำ Subscription ส่งยาสีฟันถึงหน้าบ้านทุกไตรมาส มีส่วนลดด้วย หวังเจาะ Gen Z ]

สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 เดนทิสเต้ ประกาศกลยุทธ์ “DEN” ที่เน้นความยั่งยืนและส่งเสริมการมีสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง อาทิ 

Driving Sustainability ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยการคอลแลปส์กับแบรนด์ภิพัชรา ส่งเสริมการนำหลอดยาสีฟันและแปรงสีฟันมาแลกผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ฟรีทั่วประเทศ ก่อนนำไปผลิตเป็นแฟชั่นไอเทมรักษ์โลก สร้างสรรค์โดยภิพัชรา ได้ตั่งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

Elevating DENTISTE’ Exclusive Experience ร่วมกับการบินไทย ส่งชุดผลิตภัณฑ์ DENTISTE’ Oral Care Set รุ่น Limited Edition สร้างประสบการณ์ดูแลช่องปากสุดพิเศษให้กับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ รวมกว่า 3.8 ล้านชุดใน 18 เดือน บนเส้นทางระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 มิถุนายน 2568) เป็นต้นไป

New Personalized Subscription Program โปรแกรมการสมัครสมาชิกของเดนทิสเต้ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการส่วนบุคคลส่งตรงถึงบ้านในราคาพิเศษ

โดยลูกค้า 100 ท่านแรก จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ ลดถึง 90% และลูกค้าทั่วไปจะได้รับส่วนลด 50% ซึ่งมีทั้งช่วงทดลอง และแบบแพ็คเกจรายปี ซึ่งการจัดส่งยาสีฟันจะเป็นทุกๆ ไตรมาส สมัครบนเว็บไซต์เดนทิสเต้ 

‘เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล’ ยังเล่าถึง Subscription Program ให้ฟังอีกว่า แบรนด์อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ขยายฐานลูกค้าไปเจาะกลุ่ม Gen Z ที่ห่วงภาพลักษณ์สุขภาพปาก ตั้งเป้าให้ภายใน 3 ปี มีสมาชิกโตขึ้นปีละ 1 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดยาสีฟันพรีเมียมในประเทศไทยเดนทิสเต้ เป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 10% และมีการเติบโตด้านยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มตลาดพรีเมียมติดต่อกันตั้งแต่ปี 2565–2568 ในอัตรามากกว่า 20% ทุกปี 

โดยผลิตภัณฑ์ Mouth Spray ยังมีการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของตลาดในปี 2567 สอดคล้องกับแนวโน้มผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น

“20 ปีที่ผ่านมา เราขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน และเชื่อว่าคน คือพลังสำคัญในการเปลี่ยนโลก เราจึงสร้างแบรนด์ที่ให้มากกว่าสินค้า แต่คือ ความสัมพันธ์ที่ดี และสุขภาพที่ดีขึ้น ของผู้คนทั่วโลก”





Source link