ดอกบัวคู่ กับ เทพไทย ทำความรู้จักยาสีฟันสมุนไพรที่เกิดจากภาคใต้




ดอกบัวคู่ กับ เทพไทย ทำความรู้จักยาสีฟันสมุนไพรที่เกิดจากภาคใต้

เป็นเวลายาวนานที่ได้เห็นยาสีฟันเทพไทยอัดแคมเปญโฆษณาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดมาอย่างยาวนาน จากการมองเห็นโอกาสทางการตลาดในรูปแบบ Mass Marketing ตอกย้ำแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค สร้างการรับรู้ถึงความคุ้มค่าในการใช้ ด้วยวลี ใช้นิดเดียว ปากสะอาด เพื่อปิด Pain Point ด้านราคา จนเกิดการทดลอง และซื้อซ้ำอยู่เสมอ

เพราะในปัจจุบันตลาดยาสีฟันกลุ่มสมุนไพรมีมูลค่ามากถึง 3,800 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 37% จากตลาดยาสีฟันรวม 10,200 ล้านบาท และเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

แม้ในวันนี้ยาสีฟันเทพไทยจะเดินเกมสร้างยอดขายผ่านโฆษณา พร้อมขยายการเติบโตผ่านไลน์อัปสินค้าใหม่ ๆ ทั้งยาสีฟันสูตรต่าง ๆ รวมถึง สบู่, เจลอาบน้ำ, โลชั่นบำรุงผิว

แต่ถ้ามองไปในอดีต ตลาดยาสีฟันสมุนไพร มีดอกบัวคู่เป็นผู้เปิดตลาดให้รู้จักและเปิดใจให้กับยาสีฟันสมุนไพรล้วนตั้งแต่ปี 2526 เพราะเห็นโอกาสของยาสีฟันสมุนไพรไทยที่ในเวลานั้นยังไม่มีผู้ผลิตยาสีฟันสมุนไพร มีเพียงยาสีฟันสมุนไพรนำเข้าจากต่างประเทศ และไม่ได้มีส่วนผสมของสมุนไพรล้วน

พร้อมทำตลาดสร้างการรับรู้ผ่านโฆษณาและสโลแกน ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ สีกาแฟ ฟองขาว ๆ จนดอกบัวคู่ติดตลาดในฐานะยาสีฟันสมุนไพรที่อยู่ติดบ้านอย่างยาวนาน

จนในวันนี้ดอกบัวคู่ไม่ได้มีเพียงแค่ยาสีฟันสูตรต่าง ๆ แต่ยังขยายไลน์อัปไปยัง Personal Care อื่น ๆ เช่น แปรงสีฟัน, น้ำยาบ้วนปาก, แชมพู, ครีมนวด, แฮร์โทนิค, สบู่, เจลอาบน้ำ, โลชั่นบำรุงผิว รวมถึงอาหารเสริมอย่างรังนก และซุปไก่สกัด อีกด้วย

และความน่าสนใจคือทั้งสองแบรนด์มีต้นกำเนิดมาจากภาคใต้ด้วยกันทั้งคู่

ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ เป็นธุรกิจที่มีต้นกำเนิดจากห้างยาสมุนไพรเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช ที่ผลิตและจัดจำหน่ายยาสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ จากตำรับยาสมุนไพรดั้งเดิมประจำตระกูล ของ ดร. บุญกิจ ลีเลิศพันธ์

จนในปี 2520 ดร.บุญกิจได้ลองพัฒนายาสมุนไพรรักษาโรคในช่องปากจนกลายเป็นยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ ออกทำตลาดในปี 2526

ส่วนปัจจุบันยาสีฟันดอกบัวคู่ผลิตยาสีฟันทำตลาดมากถึง 38 ล้านหลอดต่อปี

ส่วนเทพไทยเป็นยาสีฟันที่มีต้นกำเนิดจากสงขลา จากครอบครัว สุริยพันธุ์ ที่ย้ายภูมิลำเนาจากกรุงเทพฯ ไปยังสงขลา

เพื่อเอาตัวรอดจากผลกระทบในวิกฤตต้มยำกุ้ง

ซึ่งจุดเริ่มต้นของยาสีฟันเทพไทยถือเป็นจุดเริ่มต้นโดยบังเอิญ จากคำแนะนำของเพื่อนบ้านที่มีอาการปวดฟันมีอาการดีขึ้นหลังจากได้รับยาสีฟันสมุนไพรสูตรทำเองของครอบครัวสุริยพันธุ์ไปทดลองใช้ ทั้งแปรงและอุดตรงที่ปวดฟัน

จนเกิดธุรกิจยาสีฟันสมุนไพรเล็ก ๆ ที่กวนส่วนผสมใส่ตลับเดินขายในตลาดนัด

ก่อนที่จะพัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้สวยงามและตั้งชื่อว่ารักษ์ไทย เพื่อขอจดทะเบียนเป็นสินค้าโอทอปประจำชุมชน จากความต้องการนำสินค้าของตัวเองไปขายในงานโอทอปต่าง ๆ

แต่วันจดทะเบียนเป็นโอทอปชื่อแบรนด์รักษ์ไทยเป็นชื่อที่มีคนจดทะเบียนการค้าไปก่อนหน้านั้น จึงเปลี่ยนชื่อจากรักษ์ไทยเป็น เทพไทย ในที่สุด

และในปี 2557 เทพไทยเปลี่ยนช่องทางขายจากเดิมที่เน้นขายผ่านงานโอทอป หลังจากได้จับมือกับบริษัทแมส มาร์เก็ตติ้ง ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและกระจายสินค้าทั่วประเทศ พร้อมกับทำภาพยนตร์โฆษณาโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

จนเทพไทยกลายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดยาสีฟันสมุนไพร

และมีดอกบัวคู่เป็นเบอร์สองในตลาด

สำหรับ ตลาดยาสีฟันสมุนไพร ในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง จากแบรนด์ยาสีฟันสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า คนที่รักสุขภาพ ชอบใช้สินค้าสมุนไพร และคนรุ่นใหม่ที่หันมาใช้ยาสีฟันสมุนไพรมากขึ้น

โดยเบอร์สองอย่างดอกบัวคู่ได้ทำตลาดเพื่อรักษาฐานลูกค้าและขยายไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ผ่านการออกยาสีฟันสมุนไพรสูตรต่าง ๆ เช่น ยาสีฟันสมุนไพรสูตรดอกบัวคู่คิดส์รสผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเจาะกลุ่มเด็ก, ยาสีฟันสูตรเซนซิทีฟลดการเสียวฟัน ขยายไปยังกลุ่มลูกค้ายาสีฟันกลุ่ม Therapeutic หรือกลุ่มป้องกันและรักษาโรคฟันและช่องปาก

พร้อมกับใช้ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน เป็นพรีเซนเตอร์ในการสื่อสารให้กับยาสีฟันดอกบัวคู่อีกทางหนึ่ง

ส่วนเทพไทยยังคงใช้การตลาดเน้นโฆษณาผ่านพรีเซนเตอร์เพื่อโปรโมตแบรนด์ แนะนำการใช้ และการพัฒนายาสีฟันสูตรเข้มข้นต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เช่น สูตรลดอาการเสียวฟัน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี สำหรับดอกบัวคู่แม้จะเป็นเบอร์สองในตลาดยาสีฟันสมุนไพร

แต่ถ้ามองที่รายได้ ดอกบัวคู่ ถือเป็นแบรนด์ที่มีรายได้มากกว่า เทพไทย จากการมีสินค้าไลน์อัปต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากยาสีฟันสมุนไพรจำนวนมาก

อ้างอิงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด มีผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีดังนี้

2564 รายได้รวม 1,351.96 ล้านบาท ขาดทุน 138.97 ล้านบาท

2565 รายได้รวม 1,310.34 ล้านบาท ขาดทุน 109.41 ล้านบาท

2566 รายได้รวม 1,386.99 ล้านบาท กำไร 72.85 ล้านบาท

 

ส่วนเทพไทย ภายใต้บริษัท เทพไทยโปรดัคท์ จำกัด มีผลประกอบการดังนี้

2564 รายได้รวม 490,315,719.68 กำไร 139.19 ล้านบาท

2565 รายได้รวม 416,451,250.88 กำไร 93.27 ล้านบาท          

2566 รายได้รวม 448,581,626.46 กำไร 107.40 ล้านบาท

 

และจากนี้ต่อไป ดอกบัวคู่ และ เทพไทย จะเติบโตต่อไปอย่างไร คงต้องดูกันยาว ๆ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล

อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที





Source link