วันที่ 20 มีนาคม ของทุกปีสมาพันธ์ทันตแพทย์โลก กำหนดให้เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ทั้งยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง
วันที่ 20 มีนาคม ของทุกปีสมาพันธ์ทันตแพทย์โลก กำหนดให้เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ทั้งยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง
เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก ได้กำหนดให้วันที่ 20 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงขอแนะวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก
- ยาสีฟัน มีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ผงขัดฟันสารก่อให้เกิดฟอง สารแต่งสี กลิ่น สารกันเสีย สารให้ความชุ่มชื้น สารเพิ่มความหนืด ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ หากใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ควรใช้ ยาสีฟันในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวและมีผู้ใหญ่ดูแลขณะแปรงฟัน
- ผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก ใช้อมกลั้วปาก มีส่วนช่วยลดกลิ่นปาก ให้ลมหายใจหอมสดชื่น ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากทดแทนการแปรงฟัน และไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เพราะยังไม่สามารถควบคุมการกลืนให้ดีได้
ทั้งนี้ ผู้บริโภคควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ภาชนะบรรจุปิดสนิทเรียบร้อย มีฉลากภาษาไทยครบถ้วน ระบุเลขที่ใบรับจดแจ้ง และควรปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลากอย่างเคร่งครัด
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาพบการโฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อาทิ ยาสีฟันทำให้ฟันงอก ยาสีฟันรักษาอาการฟันหลวม น้ำยาบ้วนปากสลายหินปูน รักษาฟันโยก ฟันผุ แก้ร้อนใน สเปรย์ระงับกลิ่นปากที่ช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ขอแจ้งผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ เป็นโฆษณาหลอกลวง หากมีปัญหาภายในช่องปากควรปรึกษาทันตแพทย์
ทั้งนี้ถ้าพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงหรือได้รับอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail: [email protected] หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
อ้างอิง : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)