“กรมอนามัย” เผย การใช้ “ยาสีฟัน” กับแผลไฟไหม้ ไม่ใช่การรักษาที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อแผลได้ พร้อมเผยวิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง แนะหากมีแผลไฟไหม้อยู่ในระดับรุนแรง ควรรีบพบแพทย์
วันที่ 20 ก.ค. 2567 มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความ อธิบายข้อสงสัย แผลไฟไหม้ : ใช้ยาสีฟันทาได้จริงหรือ? โดยระบุว่า หลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำว่า เมื่อโดนไฟไหม้ให้ทายาสีฟันบริเวณแผล เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน แต่คำแนะนำนี้มีความจริงแค่ไหน? บทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัย และอธิบายวิธีปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้ที่ถูกต้อง
ความจริงเรื่องการใช้ยาสีฟันกับแผลไฟไหม้
ยาสีฟันนั้นไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการแผลไฟไหม้ และอาจเป็นอันตรายต่อแผลด้วยซ้ำ สาเหตุที่ไม่ควรใช้ยาสีฟันกับแผลไฟไหม้ มีดังนี้
ไม่สามารถลดความร้อน ยาสีฟันไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิบริเวณแผล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อเสียหายมากขึ้น
ระคายเคืองแผล ส่วนประกอบในยาสีฟันบางชนิด เช่น สารฟอกฟันขาว สารแต่งกลิ่น และสารกันบูด อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงติดเชื้อ การใช้ยาสีฟันอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่แผล เนื่องจากยาสีฟันไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อโรค
วิธีปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้ที่ถูกต้อง
- เมื่อโดนไฟไหม้ สิ่งสำคัญคือการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง เพื่อลดความรุนแรงของแผล ดังนี้
- ราดน้ำเย็น ให้น้ำเย็นไหลผ่านบริเวณที่ถูกไฟไหม้ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาที หรือจนกว่าอาการปวดแสบปวดร้อนจะหายไป
- ประคบเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบบริเวณแผล ประมาณ 20 นาที เพื่อช่วยลดอาการบวม
- ทายาฆ่าเชื้อ ใช้ยาฆ่าเชื้อ เช่น คลอโรเฮกซิดิน ทาบริเวณแผล
- ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
เมื่อไรควรพบแพทย์
ในกรณีที่แผลไฟไหม้อยู่ในระดับรุนแรง เช่น แผลลึก แผลกว้าง หรือมีอาการอื่นๆ เช่น เป็นไข้ มีอาการหนาวสั่น หรือหมดสติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
การปฐมพยาบาลที่ถูกวิธีช่วยลดความรุนแรงของแผลไฟไหม้ได้ และอย่าลืมว่ายาสีฟันไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการแผลไฟไหม้ได้
การใช้ยาสีฟันกับแผลไฟไหม้ไม่ใช่การรักษาที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อแผลได้ ควรปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง และรีบพบแพทย์ในกรณีที่แผลไฟไหม้อยู่ในระดับรุนแรง.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข