การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมลดลง 43% นับตั้งแต่ยุค 80


(CNN) – มีคนเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมน้อยลงตามรายงานของ American Cancer Society

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขล่าสุดจากองค์กรแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำยังคงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพของผู้หญิงผิวดำ

การวิจัยที่ได้รับการปรับปรุง การรักษาที่ดีขึ้น และการตรวจคัดกรองทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเสียชีวิตน้อยลง

“ปีสูงสุดคือปี 1989 และตั้งแต่นั้นมา อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมก็ลดลง 43% จริงๆ” ดร.บิล ดาฮัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของสมาคมโรคมะเร็งแห่งอเมริกา กล่าว

แต่ตัวเลขล่าสุดจาก American Cancer Society ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเร็วพอในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับผู้หญิงผิวดำ

องค์กรกล่าวว่าโดยรวมแล้ว ผู้หญิงผิวดำมีโอกาสเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงผิวขาวประมาณ 40%

“ถ้าคุณเป็นผู้หญิงผิวสีที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 29 ปี จริงๆ แล้วคุณมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงผิวขาวในวัยเดียวกัน” Dahut กล่าว

American Cancer Society กล่าวว่าสิ่งสำคัญคือต้องดูแลสุขภาพให้เพียงพอสำหรับทุกคน

”ผู้หญิงผิวสี โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสี ไม่ได้ตรวจแมมโมแกรมเสมอไป หรือสิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ได้ดีที่สุดเสมอไป พวกเขาไม่ได้ถูกเรียกกลับมาอย่างเหมาะสมเสมอไป และไม่ได้รับโอกาสแบบเดียวกันเสมอไปสำหรับการรักษาที่ใหม่กว่าของเรา” Dahut กล่าว

การตรวจคัดกรองเป็นกุญแจสำคัญ แต่องค์กรกล่าวว่ามีการลดลงในแมมโมแกรมในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ และมีคนน้อยกว่าล้านคนที่ไปตรวจคัดกรองประจำปี

Dahut กล่าวว่า “เป็นสิ่งสำคัญหากคุณเป็นมะเร็ง ที่เราพบว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะงั้นเราก็สามารถทำอะไรกับมันได้” Dahut กล่าว

ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนแห่งการรณรงค์เรื่องมะเร็งเต้านม American Cancer Society ได้เริ่มแคมเปญที่เรียกว่า “Grab Your Girls” เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงได้รับการตรวจคัดกรอง



ข่าวต้นฉบับ

About Author