ด.ต.ยอมจ่าย 1.4 แสน ถีบหน้าแม่ค้าทุเรียนทำจมูกเคลื่อน (คลิป)

คืบหน้าแม่ค้าขายทุเรียนที่ศรีสะเกษ ถูกดาบตำรวจถีบหน้าทำจมูกที่ทำศัลยกรรมเคลื่อน หลังทวงค่าทุเรียนที่ค้างจ่ายอยู่ 350 บาท ล่าสุดพนักงานสอบสวนนัดคู่กรณีเจรจาไกล่เกลี่ย ฝ่ายตำรวจยอมจ่ายค่าเสียหาย 1.4 แสน โดยจ่ายมาแล้ว 5 หมื่น
จากกรณีเฟซบุ๊ก ชื่อ ฑิตยา บุญพา มีได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ชุลมุนโดย ในคลิปปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่งปรี่เข้ามาชกเข้าที่ใบหน้าตำรวจนายหนึ่งในชุดเครื่องแบบเต็มยศ จนเกิดเหตุชุลมุนกันภายในร้านกาแฟ ในอำเภอเมืองศรีสะเกษ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ช่วงประมาณ 10.00 น. ทราบว่าเป็นการการทวงเงินที่ “นายดาบตำรวจ” ค้างค่าทุเรียน 2 ลูกเป็นจำนวนเงิน 1,350 บาทและมีการทวงถามเงินที่ดาบตำรวจค้างซึ่งดาบตำรวจจ่ายมาแค่ 1,000 บาท นางสาวฑิตยา (แม่ค้าทุเรียน) จึงเอ่ยทวงเงินที่ยังค้างอีก 350 บาท ทำให้ดาบตำรวจไม่พอใจถีบหน้านางสาวฑิตยาได้รับบาดเจ็บที่จมูกและคางที่นางสาวฑิตยาทำศัลยกรรมได้รับความเสียหาย
กรณีที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องให้ดาบตำรวจคนที่ก่อเหตุเข้ามาขอโทษพร้อมกับชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าแก้ไขเสริมจมูกเสริมคาง ค่าเสียเวลา และค่าเสียหายจากการขาดรายได้ ที่ต้องหยุดค้าขายไปหลายวันรวมเป็นเงิน 140,000 บาท
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาเจราจาไกลเกลี่ย ระหว่าง น.ส.ฑิตยา บุญพา อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย กับดาบตำรวจ ที่ถูกกล่าวหา โดยหลังการไกล่เกลี่ย น.ส.ฑิตยา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้เจรจาตกลงค่าเสียหาย ซึ่งตนได้เรียกเอากับคู่กรณี จำนวน 140,000 บาท โดยในวันนี้ นายดาบตำรวจ ได้ยอมรับผิด และกล่าวคำขอโทษ ต่อหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมกับยอมจ่ายเงิน จำนวน 50,000 บาทเป็นก้อนแรกก่อน เป็นเงินค่าทำศัลยกรรมที่ตนได้นัดหมอไว้แล้ว ส่วนที่เหลือระบุให้จ่ายภายในวันที่ 15 ก.ย. 2566 อีก 90,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนเสียหายจากการถูกกระทำ ทั้งค่าซ่อมแก้ไขจมูกและคางที่เคลื่อน ทั้งค่าทุเรียนค้างจำหน่ายจำนวนกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 แสนบาท ที่ต้องหยุดพักรักษาตัวจากการถูกทำร้าย
ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนได้เรียกผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชามาสอบถาม เบื้องต้นก็ยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง จึงให้ไปพูดคุยกันกับคู่กรณี ไกล่เกลี่ยกันกับผู้เสียหาย ซึ่งอะไรที่เป็นความเสียหายก็ให้ทางผู้ก่อเหตุชดใช้ไป โดยวันนี้มีการพูดคุยชดใช้ไปแล้วส่วนหนึ่ง ในส่วนที่มีภาพที่ตำรวจเรากระทำความรุนแรงตามภาพวงจรปิดที่ออกไปนั้น ตนต้องออกโทษด้วย และขอรับผิด เนื่องจากตำรวจของเราในขณะนั้นไม่ค่อยมีสติ ไม่ค่อยเรียบร้อย เบื้องต้นทางตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ จะตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ในการควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งตัวผู้ก่อเหตุ และตำรวจทุกนาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก